ถ้าพูดถึง “แม่ฮ่องสอน” เมืองเล็กกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจีและวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า เมืองแห่งนี้มีเรื่องราวความเป็นมาที่ผูกพันกับบุคคลสำคัญผู้หนึ่ง นั่นคือ **“พญาสิงหนาทราชา”** ผู้เป็นเจ้าเมืององค์แรก และเป็นผู้วางรากฐานความเจริญของแม่ฮ่องสอน
จากชายหนุ่มไทใหญ่ สู่ผู้นำเมือง
พญาสิงหนาทราชา เดิมชื่อ ชานกะเล ชาวไทใหญ่ผู้เดินทางมาพร้อมพะกาหม่องในปี พ.ศ. 2399 และตั้งรกรากอยู่ที่ **บ้านปางหมู** ด้วยความขยันขันแข็งและความซื่อสัตย์ ทำให้ได้รับความไว้วางใจ มีโอกาสเข้าร่วมสัมปทานไม้สัก ซึ่งรุ่งเรืองมากในยุคนั้น ต่อมาได้ก่อร่างสร้างหมู่บ้านและรวมผู้คนจนขยายเป็น **เมืองขุนยวม**
พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ มองเห็นความสามารถของชานกะเล จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง พร้อมพระราชทานนามใหม่ว่า **พญาสิงหนาท** และเมื่อปี พ.ศ. 2417 เมืองขุนยวมถูกเปลี่ยนชื่อเป็น **เมืองแม่ฮ่องสอน** ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าฟ้าองค์แรก พร้อมบรรดาศักดิ์ **พระยาสิงหนาทราชา**

การสร้างเมืองและศรัทธาพุทธศาสนา
ในช่วงที่ปกครองเมือง พญาสิงหนาทราชาได้วางรากฐานการเกษตร จัดหาที่ทำกินให้ราษฎร ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการ **สร้างพระเจดีย์องค์เล็กบนดอยกองมู** ที่ภายหลังกลายเป็น **วัดพระธาตุดอยกองมู** แลนด์มาร์กสำคัญของแม่ฮ่องสอน


นอกจากนั้น ท่านยังสอนให้ชาวเมืองยึดถือศีลธรรมและประเพณีท้องถิ่น ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็นมาจนถึงทุกวันนี้
เกร็ดแนะนำสถานที่ที่เกี่ยวข้อง
วัดพระธาตุดอยกองมู**
ไม่ว่าใครมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน ต้องแวะขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุบนดอยกองมู ที่พญาสิงหนาทราชาเป็นผู้สร้างไว้ พระธาตุแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง สามารถมองเห็นวิวเมืองแม่ฮ่องสอนแบบ 360 องศา โดยเฉพาะช่วงเช้า ๆ จะได้ชมทะเลหมอกงดงามสุดสายตาร่องรอยที่ยังอยู่จนวันนี้
แม้พญาสิงหนาทราชาจะถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2429 แต่สิ่งที่ท่านสร้างไว้ยังคงเป็นรากฐานให้เมืองแม่ฮ่องสอนเจริญรุ่งเรือง ทั้งในด้านศาสนา วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของผู้คน ใครที่มาเยือนที่นี่ นอกจากธรรมชาติอันงดงามแล้ว ยังจะได้สัมผัสถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว






